Blog

Study Abroad FAQs, Study in UK, Study in US

3 บทเรียนจากเหว่ยเจี๋ย Flash Express

“3 บทเรียนจากเหว่ยเจี๋ย Flash Express”.สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสนั่งฟัง “เหว่ยเจี๋ย” ผู้ที่อยู่เบื้องหลังระบบ IT ของ Flash Express คนที่เป็นต้นแบบของตัวละคร “รุ่ยเจี๋ย” จากซีรีส์ “สงครามส่งด่วน”.คุณเหว่ยเจี๋ยมาบรรยายที่ HOW Club ตามคำเชิญของพี่โจ้ ธนา พี่กระทิง เรืองโรจน์ รวมทั้งคุณคมสันต์ Flash Express เองด้วย.คุณคมสันต์บอกกับคุณเหว่ยเจี๋ยตอนไปชวนมาบรรยายว่า “ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบออกหน้า แต่ตอนนี้มันมีกระแสจากซีรีส์ หลายคนคงอยากรู้จักคุณ แต่ผมก็แล้วแต่คุณว่าคุณจะไปบรรยายมั้ย แต่ผมขอแค่ Session เดียวที่อยากให้คุณมาจริงๆ“.และนั่นก็คือ Session ที่ HOW Club นี้ครับ ถือว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเลย.คุณเหว่ยเจี๋ยเดินทางจากประเทศจีนมาเมืองไทยครั้งแรกก็ตอนที่คุณคมสันต์ไปชวนมาทำ Flash Express แล้ว ก่อนหน้านั้นไม่เคยมา พูดไทยไม่ได้ (และยังไม่ได้ดูซีรีย์สงครามส่งด่วนด้วย).ก่อนหน้าที่จะมา Flash Express เขาต่อสู้ฝ่าฟันจากชานตงเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยระดับประเทศของจีน แล้วได้ทำงานกับ Alibaba โดยที่ Alibaba เขาคือ คนสาย Tech ดาวรุ่งหลายปีติดกัน…

Learn more

Study Abroad FAQs, Study in UK, Study in US

3 บทเรียนจากสุกี้ตี๋น้อย

“สุกี้ตี๋น้อย” .ผมมีโอกาสไปร่วมฟังบรรยายของคุณเฟิร์น นัทธมน เจ้าของแบรนด์สุกี้ตี๋น้อย ที่จัดโดย HOW ของพี่โจ้ ธนา และพี่กระทิง เรืองโรจน์.ฟังจบแล้ว ผมรู้สึกว่า เรื่องราวของคุณเฟิร์นน่าจะเป็นบทเรียนที่ดีให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังวางแผนส่งลูกไปเรียนต่อต่างประเทศได้ครับ.คุณเฟิร์นเริ่มต้นธุรกิจสุกี้บุฟเฟ่ต์ตอนอายุ 25 ไม่มีเงินทุน ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีแผนธุรกิจ มีแค่ใจที่มุ่งมั่นกับพื้นที่ว่างเล็กๆ ของร้านอาหารของคุณพ่อที่ผู้เช่าเดิมย้ายออกไป.จนวันนี้ กลายมาเป็นแบรนด์ที่มีสาขากว่า 85 สาขา สร้างรายได้ 7,000 ล้านบาท และพนักงานนับพันชีวิต.ฟังดูอาจไม่เกี่ยวกับการเรียนต่างประเทศ แต่จริงๆ แล้ว มันเหมือนกันมากๆ เลยครับ.วันนี้ ผมขอเล่า 3 บทเรียนจากสุกี้ตี๋น้อย ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำมาใช้ในการวางแผนอนาคตให้ลูกได้เลยครับ.

Learn more
Trump VS Harvard

Study Abroad FAQs, Study in US

Trump vs Harvard

“Trump vs Harvard” .สัปดาห์ที่แล้ว ข่าวที่ประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศเพิกถอนสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard) ในการรับนักศึกษาต่างชาติ ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ จำนวนมาก ที่แพลนสมัครเรียนต่อปริญญาตรีที่ Harvard และมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในสหรัฐฯ.รวมถึงคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ นักเรียนของ Mission To Top U หลายคนที่เพิ่งสอบติดในปีนี้ และกำลังอยู่ระหว่างทำวีซ่า ตั๋วเครื่องบิน และเลือกหอพักต่างๆ ก็กังวลกับอนาคตการไปเรียนเช่นกัน ว่าจะยังไงต่อดี?.ผมเลยอยากชวนคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ มาทำความเข้าใจสถานการณ์นี้แบบไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป.ก่อนอื่นมาดูรายละเอียดของข่าวกันเล็กน้อยครับ.ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายน 2025 รัฐบาล Trump ได้สั่งระงับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลางที่จัดสรรให้ Harvard บางส่วน ทำให้ Harvard สูญเสียเงินไปมากถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 60,000 ล้านบาท จากปกติต้องได้รับ 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 300,000 ล้านบาท.และเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ Trump ได้เพิกถอนการรับรองในระบบ…

Learn more

Study Abroad FAQs, Study in US

ปลูก 100 ป่า ก็เข้า Ivy League ไม่ได้

”ปลูก 100 ป่า ก็เข้า Ivy League ไม่ได้“ 🌳🇺🇸คุณพ่อคุณแม่หลายท่านยังมีความเชื่อว่า ถ้าจะเข้ามหาวิทยาลัยระดับ Ivy League, Oxford, Cambridge หรือเทียบเท่า ต้องทำกิจกรรมเยอะๆ จึงมักสนับสนุนให้ลูกทำกิจกรรมตามเพื่อนๆ เช่นเวลามีงานอาสาปลูกป่า, แจกของเด็กด้อยโอกาส, บริจาคเลือด ก็ไปหมด ทั้งๆ ที่ตัวของลูกอาจจะไม่อินและฝืนใจไปทุกครั้ง เพียงเพื่อให้ Profile ดูดีวันนี้ ผมอยากให้คุณพ่อคุณแม่ลบภาพจำว่า “กิจกรรม” เท่ากับ ปลูกป่า, บริจาคเลือด, ไปค่ายอาสา, บริจาคสิ่งของ หรืองานจิตอาสาอื่นๆ เท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วสิ่งที่นับเป็นกิจกรรมได้ มีอีกเยอะมาก เช่น “กิจกรรม” จึงไม่ใช่สิ่งที่ต้องแสดงว่าลูกเป็น “คนดี” ยอมตากแดด ตากฝน เพื่อช่วยเหลือคนอื่นเท่านั้น แต่ต้องเป็นสิ่งที่ทำเพื่อคนอื่นในแบบของตัวเองในทางใดทางหนึ่ง เช่น อยู่บ้านเขียน Blog เรื่อง Coding ก็นับเป็นกิจกรรมที่ดีได้ครับแต่จะทำกิจกรรมอะไรนั้น ต้องดูก่อนว่าลูกชอบอะไรและเป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยมองหาหรือไม่ แล้วพยายามทำสิ่งที่ชอบให้โดดเด่น ให้เห็นเป็น Theme…

Learn more

Study Abroad FAQs, Study in UK, Study in US

เรียนต่อ US vs UK ต่างกันยังไง? เลือกที่ไหนดี?

ในฐานะที่ผมให้คำปรึกษาเรื่องเรียนต่อต่างประเทศ ระดับ Ivy League, Oxford, Cambridge มาหลายปี หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดจากคุณพ่อคุณแม่ คือ …“ถ้าจะให้ลูกไปเรียนปริญญาตรีต่างประเทศ ไปอเมริกาหรืออังกฤษจะดีกว่าครับ/ค่ะ?”คำตอบของผมคือ เลือกที่ที่ “เหมาะกับลูก” ครับแล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าที่ไหนจะเหมาะกับลูกของเรา ผมขอแนะนำ 9 ปัจจัยหลักเพื่อพิจารณาดังนี้ครับ 1. ความชัดเจนของเป้าหมาย มหาวิทยาลัยใน US จะไม่บังคับให้เลือกสาขาตั้งแต่แรกเข้า โดยนักเรียนจะเรียนวิชาทั่วไปในช่วง 2 ปีแรก แล้วค่อยเลือกสาขาเมื่อขึ้นปี 3 เราจึงอาจเห็นนักเรียนหลายคนเปลี่ยนสาขาระหว่างเรียน ทั้งนี้ น้องๆ ที่จบ High school จะยังไม่สามารถสมัครเรียนบางสาขาได้ เช่น แพทย์ หรือกฏหมาย ส่วนระบบ UK ให้เลือกสาขาตั้งแต่ก่อนสมัครเลย แล้วเรียนลงลึกในสาขานั้นตั้งแต่ปีแรกเลย ถ้าไปเรียนแล้วไม่ชอบ ก็ย้ายสาขาไม่ง่ายแล้ว 2. ระยะเวลาเรียน ปริญญาตรีใน US จะเรียน 4 ปี โดยมีค่าใช้จ่ายรวม ทั้งค่าเรียนและค่าครองชีพ ประมาณ 12…

Learn more