3 บทเรียนจากสุกี้ตี๋น้อย

Study Abroad FAQs, Study in UK, Study in US

June 12, 2025

“สุกี้ตี๋น้อย”
.
ผมมีโอกาสไปร่วมฟังบรรยายของคุณเฟิร์น นัทธมน เจ้าของแบรนด์สุกี้ตี๋น้อย ที่จัดโดย HOW ของพี่โจ้ ธนา และพี่กระทิง เรืองโรจน์
.
ฟังจบแล้ว ผมรู้สึกว่า เรื่องราวของคุณเฟิร์นน่าจะเป็นบทเรียนที่ดีให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังวางแผนส่งลูกไปเรียนต่อต่างประเทศได้ครับ
.
คุณเฟิร์นเริ่มต้นธุรกิจสุกี้บุฟเฟ่ต์ตอนอายุ 25 ไม่มีเงินทุน ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีแผนธุรกิจ มีแค่ใจที่มุ่งมั่นกับพื้นที่ว่างเล็กๆ ของร้านอาหารของคุณพ่อที่ผู้เช่าเดิมย้ายออกไป
.
จนวันนี้ กลายมาเป็นแบรนด์ที่มีสาขากว่า 85 สาขา สร้างรายได้ 7,000 ล้านบาท และพนักงานนับพันชีวิต
.
ฟังดูอาจไม่เกี่ยวกับการเรียนต่างประเทศ แต่จริงๆ แล้ว มันเหมือนกันมากๆ เลยครับ
.
วันนี้ ผมขอเล่า 3 บทเรียนจากสุกี้ตี๋น้อย ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำมาใช้ในการวางแผนอนาคตให้ลูกได้เลยครับ
.

  1. เริ่มให้ได้ก่อน
    การสมัครมหาวิทยาลัยระดับโลกนั้น มีส่วนที่ต้องทำหลายอย่าง เช่น คะแนน IB/AP/A-Level, คะแนน SAT/ACT, คะแนน IELTS/TOEFL, การทำกิจกรรมต่างๆ ให้โดดเด่น, Online Application Form, Essay เป็นต้น
    .
    ลูกของคุณพ่อคุณแม่ อาจมีความคิดว่า เดี๋ยวทำส่วนหนึ่งให้จบก่อน ให้ Perfect ก่อน แล้วค่อยทำส่วนถัดไป เช่น เดี๋ยวรอ IELTS ให้ได้คะแนนดีดีก่อน ค่อยสอบ SAT, เดี๋ยวเอา SAT ให้จบก่อน ค่อยเริ่มทำกิจกรรมให้โดดเด่น เป็นต้น
    .
    ผมอยากแนะนำว่า ถ้ารอให้ส่วนใดส่วนหนึ่งพร้อม 100% ก่อน แล้วค่อยเริ่มส่วนถัดไป อาจจะสายเกินไปครับ เช่น มัวแต่ทำคะแนน SAT จนเหลือเวลาแค่ 6 เดือนในการทำกิจกรรมนอกเวลา ทำให้สิ่งที่ทำไม่ได้มี Impact และไม่ได้แสดงหลักฐานที่ Strong ว่าน้องมี Passion ในเรื่องใดๆ จริงๆ สุดท้ายก็สอบไม่ติดแม้จะมี SAT สูงก็ตาม
    .
    ตอนอายุ 25 คุณเฟิร์นไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าชอบสุกี้ แต่รู้ว่าอยากออกจากงานประจำ มาทำธุรกิจที่ Mass และ Scalable
    .
    คุณเฟิร์นเริ่มจากหน้าร้านอาหารของคุณพ่อ ที่คนเช่าเดิมเพิ่งออก ช่วงแรกที่ทำ ก็ไม่มีลูกค้า ก็ต้องเรียกคนมากินฟรี พนักงานก็มีแค่คุณเฟิร์นกับพี่หมวย (แม่ครัว) อีกคน คุณเฟิร์นก็ซื้อผัก ซื้อหมู และวัตถุดิบต่างๆ ที่ตลาดเอง เสิร์ฟอาหารเอง และตอบ Inbox เอง
    .
    ทำไปสักพัก เริ่มขยายไปสาขา 3,4,5 แต่ก็ยังไม่มีระบบ ทำให้ถูกโกงไปหลายครั้ง แต่จากการลงมือทำจริง เจ็บจริง ใส่ใจทุกรายละเอียด ก็ค่อยๆ เรียนรู้ปรับปรุงแก้ไขไปทีละอย่าง จนวันนี้ กลายเป็นร้านระดับประเทศไปแล้ว
    .
    การเรียนต่างประเทศก็เช่นกัน ไม่ต้องรอให้ส่วนใดส่วนหนึ่ง Perfect ก่อน แล้วค่อย Move on ส่วนถัดไป แต่ต้องเริ่มวันนี้เลย ทำสิ่งที่ทำได้ไปพร้อมๆ กัน แล้วค่อยๆ เติมให้ครบและปรับกันไปในระหว่างทาง
    .
  2. ใช้ของที่มีให้ดีที่สุด
    น้ำจิ้มสุกี้ตี๋น้อยไม่ได้เริ่มจากเชฟระดับโลก วัตถุดิบระดับประเทศ แต่เริ่มจากคุณเฟิร์นกับพี่หมวยนั่งปอกและสับกระเทียมหลังร้าน ลองผิดลองถูก จนได้สูตรที่วันนี้กลายเป็นหัวใจของแบรนด์ ผลิตน้ำจิ้มวันละ 8 ตันมาเสิร์ฟลูกค้า
    .
    กับการสมัครมหาวิทยาลัยก็ไม่ต่างกันเลยครับ
    .
    ลูกอาจจะไม่ได้มี Profile ยิ่งใหญ่ ไม่ได้ชนะโอลิมปิก ไม่ได้เป็นนักกิจกรรมตัวยง แต่พี่เมฆพบว่า น้องๆ ทุกคน มีของดีในตัวเสมอ แค่ต้องรู้ว่าจะดึงเรื่องไหนออกมาขายมหาวิทยาลัยและดึงออกมาแสดงอย่างไร
    .
    ผมเคยช่วยน้องคนหนึ่ง เป็นเด็กที่เรียนปานกลาง ไม่ชอบทำกิจกรรม ไม่ชอบแข่งขันวิชาการ ไม่ชอบเล่นกีฬา คุณพ่อคุณแม่กังวลมากๆ เมื่อเทียบกับเพื่อนของลูกที่ทำอะไรต่างๆ มากมาย
    .
    แต่ผมพบว่า น้องเป็นคนรักไวโอลินมากๆ
    .
    เราเลยเริ่มจากสิ่งที่มี ผมแนะนำให้น้องอัดคลิปเล่นไวโอลินเพลงโปรดของน้อง ลง YouTube ให้ผู้ชมฟังเพื่อผ่อนคลายก่อนนอน
    .
    นอกจากนี้ ผมแนะนำให้น้องเป็นผู้บริหาร Music Club ของโรงเรียน และจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
    .
    นอกจากนี้ ผมช่วยให้น้องเชื่อมเรื่องดนตรีกับสาขาที่อยากเรียน นั่นคือ Psychology ผมแนะนำให้น้องไปทำ Internship กับคลินิกจิตเวช เพื่อเรียนรู้ว่าดนตรีสะท้อนความเข้าใจอารมณ์ของคนอย่างไร ช่วยทำให้คนสนิทกันมากขึ้นอย่างไร ช่วยบำบัดจิตใจคนได้อย่างไร
    .
    สุดท้ายน้องสอบติด UCLA และคุณพ่อคุณแม่ก็บอกผมว่าไม่เคยคิดมาก่อนว่าแค่เล่นไวโอลินจะกลายเป็นจุดขายของลูกได้จริงๆ
    .
    คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูก List สิ่งที่ลูกเคยทำออกมา แล้วมองภาพใหญ่ พยายามเชื่อมเรื่องราว ค้นหาเหตุผลของการทำแต่ละอย่างเหล่านั้นเข้าด้วยกันให้ได้ มันมักจะฉายแววความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นตัวตนของลูกออกมาเสมอครับ
    .
  3. เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง
    ตอนเปิดสาขาที่สอง คุณเฟิร์นไม่เลือกทำร้านตามตลาดทั่วไป แต่เลือก “ไนท์คลับเก่า” ที่มีเพดานสูง ห้องน้ำหรู แอร์เย็น และที่จอดรถกว้างขวาง
    .
    ในขณะที่ร้านอื่นๆ ไม่มีแอร์ หาที่จอดก็ลำบาก ให้ลูกค้าตักอาหารเอง สุกี้ตี๋น้อยกลับมีพนักงานมาเสิร์ฟอาหารถึงโต๊ะ เสิร์ฟแบบไม่กั๊กด้วย ในราคาที่เท่าๆ กัน คือ 199 บาท
    .
    ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าขนาดนี้ ลูกค้าก็ไหลมาเทมาต่อเนื่องเลยครับ
    .
    เหมือนกับการสมัครมหาวิทยาลัยเลยครับ มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งก็มีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน บางแห่งมองหาเด็กนักกิจกรรม บางแห่งอยากได้เด็กวิชาการ บางแห่งให้ความสำคัญกับ Passion บางแห่งดู Leadership เป็นหลัก
    .
    ถ้าคุณพ่อคุณแม่เข้าใจสิ่งที่แต่ละมหาวิทยาลัยต้องการ ก็สามารถแนะนำลูกให้ปรับการทำกิจกรรมต่างๆ และการเขียน Essay ให้ตอบโจทย์ได้อย่างแม่นยำ
    .
    ผมจึงมักแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกมาร่วมกิจกรรม Workshop ต่างๆ ของ EverLearnX เพื่อให้ได้พูดคุยกับรุ่นพี่ที่จบจากมหาวิทยาลัยระดับโลก เพื่อให้ลูกเข้าใจว่า มหาวิทยาลัยแต่ละที่มองหาอะไรจริงๆ ครับ
    .
    สุดท้ายนี้ คนที่ได้เรียนในมหาวิทยาลัยระดับโลก ไม่ใช่คนเก่งที่สุด แต่เป็นคนที่ “เริ่มก่อน” “เข้าใจตัวเอง” และ “เข้าใจมหาวิทยาลัย” เหมือนสุกี้ตี๋น้อยที่เริ่มจากโต๊ะ 10 ตัวจนกลายเป็นแบรนด์ยอดขายเกือบหมื่นล้าน
    .
    ลูกของคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ในวันนี้ และก้าวสู่ Top U ได้ในวันพรุ่งนี้ครับ
    .
    🧑‍🎓💼อยากให้ลูกได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในฝัน? สามารถปรึกษาฟรีเพื่อวางแผนการสมัครได้ที่🔽
    Line OA: @everlearnx
    .
    📍ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: www.everlearnx.com
    .
    🏆การันตีความสำเร็จโดยพี่ๆ ที่เคยติด Harvard, Stanford, Wharton, MIT, Columbia, UCLA, Oxford, Cambridge ช่วยแนะแนวทางให้ลูกแบบเจาะลึก
    .

Related post

Study Abroad FAQs, Study in UK, Study in US

เขียน Why us ไม่ได้ เตรียม Why วอด

“เขียน Why us ไม่ได้ เตรียม Why วอด”.เมื่อไม่กี่วันก่อน ผมได้อ่านหนังสือชื่อ “HOME RUN แพ้กี่ครั้งไม่สำคัญ ขอตีโฮมรันครั้งเดียวพอ” ของพี่โจ้ ธนา เธียรอัจฉริยะ ในตอนหนึ่ง พี่โจ้เล่าถึงเรื่อง Why us ของธุรกิจสินเชื่อกระเป๋าแบรนด์เนม bagforcash พร้อมกับบอกว่า “เขียน Why us ไม่ได้ เตรียม Why วอด”.ทันทีที่ผมอ่านตอนนี้จบ ผมนึกถึงน้องๆ ที่กำลังจะสมัครเรียนต่อปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยระดับโลกอย่าง Harvard, MIT, Stanford, Oxford, Cambridge ขึ้นมาทันทีเลยครับ.เพราะมหาวิทยาลัยระดับโลกไม่ได้มองหาคนมาจ่ายเงินค่าเทอมมา “รับ” ความรู้และ Network ดีดีอย่างเดียว ถ้าต้องการแค่เงิน ผู้สมัครคนไหนก็ให้ได้ แต่มหาวิทยาลัยเหล่านี้มองหาคนที่จะมา “ให้” ต่างหาก เช่น ให้ความรู้เพื่อนร่วมชั้น ให้แรงบันดาลใจเพื่อนร่วมชั้น สร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้แก่มหาวิทยาลัย ทั้งตอนเป็นนักเรียน และหลังเรียนจบไปแล้ว.คนแบบนี้ต่างหาก ที่ทำให้มหาวิทยาลัยยังมีคุณค่าต่อไปในโลกอนาคต และนั่นคือเหตุผลที่มหาวิทยาลัยระดับโลกจะถามคำถามในส่วนของ Supplemental…

Learn more

Study Abroad FAQs, Study in UK, Study in US

เจอ Bill Gates อยากบอกอะไร

“เจอ Bill Gates อยากบอกอะไร?”.คุณพ่อคุณแม่ลองจินตนาการตามผมนะครับ ถ้าลูกของเรามีโอกาสยืนอยู่ในลิฟต์กับ Bill Gates หนึ่งในคนที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลกมากที่สุดในยุคนี้ เขาหันมายิ้มให้ลูก ทักทาย แนะนำตัว พร้อมถามสั้น ๆ ว่า “Please tell me a bit about yourself.” ซึ่งอีก 10 วินาทีลิฟต์จะถึงที่หมาย ลูกเราจะพูดว่าอะไรดีครับ?.“ผมเรียนเก่งครับ ได้ GPA 4.0 ทุกเทอม”“หนูเป็นหัวหน้า 3 ชมรม ทำกิจกรรมเยอะค่ะ”“ผมเป็นตัวแทนแข่งวิทยาศาสตร์ระดับชาติครับ”.ฟังดูดีหมดเลยครับ แต่มันยังไม่ทำให้เขาจำลูกของเราได้เลย เพราะประโยคเหล่านั้น ยังไม่แสดงว่า “ตัวตน” ของลูกคืออะไร?.ประโยคเหล่านั้น คือข้อมูล แต่ไม่ใช่เรื่องเล่า ประโยคเหล่านั้น คือสิ่งที่ทำ แต่ยังไม่ใช่สิ่งที่เป็น.Harvard ระดับ Undergrad ล่าสุดมีผู้สมัครประมาณ 60,000 คน ได้ตอบรับเข้าเรียนประมาณ 1,900 คน หรือประมาณ 3.2% เท่านั้น มหาวิทยาลัยระดับโลกเหล่านี้ มีกรรมการคัดเลือก…

Learn more

Study Abroad FAQs, Study in UK, Study in US

อวสาน ! คนมีดีแค่คะแนน

“อวสาน ! คนมีดีแค่คะแนน”.เมื่อคะแนนอย่างเดียวมันไม่พออีกต่อไปในโลกของการเรียนต่อระดับโลก.ลองจินตนาการดูนะครับ ลูกเราได้เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยในฝัน Top 10 ของโลก เพื่อนๆ ในคลาสคือ คนที่ A-Level, IB, AP เกือบเต็ม และ SAT สูงมากๆ ระดับ 1,550++.แต่ไม่มีใครคุยกันเลย.เช้าเข้าเรียน เรียนเสร็จกลับห้อง ในห้องเรียนไม่มีใครตั้งคำถาม ไม่มีใคร Discuss ไม่มีใครลุกขึ้นมา Propose idea ใดๆ ให้อาจารย์ กิจกรรมของชมรมต่างๆ เงียบเหงา ไม่มีคนจัด Event ไม่มีใครทำอะไรนอกจากอ่านหนังสือสอบ.แล้วจบออกมา คนเหล่านั้นก็เก่งอยู่คนเดียว ไปทำงานเงียบๆ อยู่ในโลกของตัวเอง ทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้สร้างอะไรให้สังคม ไม่ได้ Inspire ใคร ไม่ได้ทำให้โลกดีขึ้น.ฟังดูน่าเศร้าใช่ไหมครับ?.และนี่คือสิ่งที่มหาวิทยาลัยระดับโลกไม่ต้องการให้เกิดขึ้นเลย.มหาวิทยาลัยไม่ได้มองหาคนเก่งที่สุด แต่เขามองหาคนที่เก่งพอประมาณ แต่ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำให้คนรอบข้างดีขึ้น มารวมกลุ่มเรียนรู้ซึ่งกันและกันที่มหาวิทยาลัย.มหาวิทยาลัยจึงอยากได้นักเรียนที่มี Sense of contribution เช่น นักเรียนที่เข้าเรียนแล้วมีส่วนร่วมใน Class, นักเรียนที่สร้าง Club สร้าง Activity…

Learn more